ที่ดินน่าน.com
  • หน้าแรก
  • ประกาศทั้งหมด
  • โครงการใหม่
  • ข่าว/บทความ

เรื่องที่ ​ชาวดินควรรู้​

เมื่อ 28 มิ.ย. 2560 อ่าน 1960 ครั้ง


           คงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า กรมที่ดินมีโครงการหลาย ๆโครงการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งทำให้กรมที่ดินมีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับจากองค์กรภายนอก โดยเฉพาะโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดินทั้งตำบลตามโครงการพัฒนากรมที่ดินและเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 20 ปี ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 และจะสิ้นสุดโครงการในปี พ.ศ. 2547 โครงการนี้ เป็นที่ยอมรับของธนาคารโลกและหลายประเทศ เป็นโครงการฯ หนึ่งในหลายโครงการฯ ที่สามารถทำให้กรมที่ดินขยายอัตรากำลังและจัดตั้งสำนักงานที่ดินสาขาออกไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างมาก

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา กรมที่ดินได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางออกปฏิบัติงานตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดิน ในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทั่วประเทศ ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร โดยในระยะแรกจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติงานในนาม "กองกำกับการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน" โดยจัดแผนการปฏิบัติงานให้ 1 จังหวัด มี 1 กองกำกับฯ หรือ 1 จังหวัดมีหลายกองกำกับฯ และใช้ข้าราชการระดับ 6 เป็นผู้กำกับการเดินสำรวจฯ ดำเนินการเดินสำรวจฯ และจัดส่งโฉนดที่ดินและเอกสารเรื่องราวการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเป็นผู้ลงนามในโฉนดที่ดินและแจกโฉนดที่ดิน ต่อมา ปรากฏว่าโฉนดที่ดินค้างแจกเป็นจำนวนมาก จึงได้ปรับเปลี่ยนให้ข้าราชการระดับ 7 เป็นผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เพื่อให้สามารถลงนามในโฉนดที่ดินและแจกโฉนดที่ดินได้ อันเป็นการลดภาระของเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนจาก "กองกำกับฯ เป็นศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน" จนถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถออกโฉนดที่ดินได้ถึง 9,252,018 แปลง เนื้อที่ 50,894,305 ไร่ ในระยะเวลา 17 ปี แม้ในบางช่วง บางตอน จะมีการแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเป็นผู้กำกับการเดินสำรวจฯ (โครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปี พ.ศ. 2537 - 2540) หรือได้จัดให้มีโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน (โครงการเสริม) โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ก็ตามก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการมีโฉนดที่ดินได้

ปัจจุบัน ทั่วประเทศมีที่ดินที่ยังไม่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเหลืออีกประมาณ 950,000 แปลง มีอยู่กระจัดกระจาย ไม่เป็นกลุ่มและมีจำนวนไม่มากเพียงพอเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่จะจัดให้ 1 ศูนย์อำนวยการฯ รับผิดชอบเพียง 1 จังหวัดได้ จึงต้องจัดแผนการปฏิบัติงานให้ 1 ศูนย์อำนวยการฯ รับผิดชอบพื้นที่ในหลายจังหวัด ทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง ยากแก่การควบคุมและติดตามให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

อธิบดีกรมที่ดิน ได้เล็งเห็นถึงความต้องการของประชาชนที่มีความต้องการมีโฉนดที่ดินจึงได้หาแนวทางที่จะทำให้การดำเนินงานตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดินทั้งตำบล สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว และสามารถออกโฉนดที่ดินได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ในเวลาเดียวกันได้ นั่นคือ ให้สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสาขาเป็นผู้ดำเนินการ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย กล่าวคือ แม้เจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะเสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการออกโฉนดที่ดินก็ตาม สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขาก็ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากเป็นที่ดินไม่มี หลักฐานที่ดิน หรือเป็นที่ดินที่ได้มาภายหลังประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายได้ ทั้งนี้ จะต้องใช้วิธีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58, 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในแง่กฎหมายแล้ว จะเห็นว่ากฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ดินหรือตัวแทนมานำหรือรอนำทำการเดินสำรวจฯ ได้ โดยไม่ต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไว้อย่างชัดเจนตามมาตรา 107 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน นอกจากนี้ มาตรา 103 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ยังได้กำหนดให้เรียกเก็บได้เฉพาะค่าธรรมเนียมเป็นค่าออกโฉนดที่ดิน ค่าหลักเขตที่ดิน และค่ามอบอำนาจในกรณีที่มีการมอบอำนาจไว้เท่านั้น โดยไม่ได้กำหนดให้เรียกค่าใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ดังนั้น ถ้าหากประสงค์จะให้เจ้าของที่ดินเสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58, 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว จะต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานาน และไม่ทันต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน

ดังนั้น กรมที่ดิน จึงได้จัดทำโครงการออกโฉนดที่ดินในลักษณะดังกล่าวขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดินทั้งตำบลโดยสำนักงานที่ดินจังหวัดและสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา" มีลักษณะและวิธีการดำเนินการดังนี้

1. ในพื้นที่จังหวัดใดที่ไม่มีศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามแผนงานโครงการปกติแล้ว ให้สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เป็นศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขา หัวหน้าฝ่ายทะเบียน หัวหน้าฝ่ายรังวัด และช่างรังวัดจากสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขานั้น ๆ เป็นเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 58, 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

2. ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดและ/หรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์การเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน รับผิดชอบในพื้นที่ที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขานั้น

3. ให้หัวหน้าฝ่ายทะเบียน ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจฯ หัวหน้าฝ่ายรังวัด ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด

4. ให้สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่กรมที่ดินคัดเลือกให้เป็นศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน พิจารณาคัดเลือกช่างรังวัด (ระดับ 3-5) ในสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขานั้น เป็นเจ้าหน้าที่สายสำรวจ โดยปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เดินสำรวจรังวัดทำแผนที่ เจ้าหน้าที่โยงยึดหลักเขต (กรณีเดินสำรวจภาคพื้นดิน) เจ้าหน้าที่กองกลางฝ่ายรังวัด เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิและเจ้าหน้าที่กองกลางฝ่ายทะเบียน ทั้งนี้ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เกลี่ยงานรังวัดให้ช่างรังวัดมีปริมาณงานรังวัดอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย/เดือน/ราย ตามที่กรมที่ดินกำหนด และให้ช่างรังวัดที่ไม่มีงานรังวัดเป็นเจ้าหน้าที่สายสำรวจ พร้อมทั้งแจ้งพื้นที่ที่จะปฏิบัติงานและรายชื่อช่างรังวัดให้กรมที่ดินทราบ

5. กำหนดเป้าหมายในการดำเนินการไว้ 40 แปลง/สาย/เดือน

6. ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าจ้างคนงานรังวัด ค่าพาหนะเดินทางสำหรับสายสำรวจและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมที่ดินกำหนด


กรมที่ดิน เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนี้

1. กรมที่ดินสามารถเพิ่มปริมาณการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนได้อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากการดำเนินงานตามแผนงานโครงการเดิม ซึ่งใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ โดยลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง

2. กรมที่ดินสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้โดยรวดเร็ว ทั่วถึง ได้พื้นที่มากพร้อมกันทั่วประเทศ

3. กรมที่ดินสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐ และสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้อย่างเต็มที่

4. กรมที่ดินได้นำทรัพยากรบุคคลในสำนักงานที่ดินจังหวัดและสาขามาใช้ก่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

5. กรมที่ดินได้มีการกระจายอำนาจหน้าที่การเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 และมาตรา 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินให้แก่สำนักงานที่ดินจังหวัดและสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา สอดคล้องตามนโยบายการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค

6. กรมที่ดินสามารถเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ได้เสร็จทั่วประเทศภายในเวลา 20 ปี ตามเป้าหมายโครงการพัฒนากรมที่ดิน และเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ (พ.ศ. 2528-2547)

จึงแจ้งให้พวกเราชาวดินทราบทั่วกัน และเตรียมตัวไว้ให้พร้อมสำหรับการดำเนินการเพื่อโครงการฯ นี้จะได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กรมที่ดินตั้งเป้าไว้

 




ที่มา : กรมที่ดิน
ลงประกาศฟรี

ค้นหาอสังหาริมทรัพย์

ประเภทสินทรัพย์

ที่ดิน

บ้านเดี่ยว

ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์

คอนโดมิเนียม

อพาร์ทเมนท์

อาคารพาณิชย์

โรงแรม รีสอร์ท

อาคาร พื้นที่สำนักงาน

โรงงาน คลังสินค้า

อื่นๆ

ทำเลยอดนิยม

ที่ดินเมืองน่าน

ที่ดินปัว

ที่ดินเชียงกลาง

ที่ดินท่าวังผา

ที่ดินเวียงสา

เกี่ยวกับเรา

เกี่ยวกับเรา

กฏกติกา

นโยบายการให้บริการ

อัตราค่าพื้นที่โฆษณา

การชำระเงิน

ติดต่อเรา

ที่ดินน่าน.com

เมืองน่าน

โทร. Line id: piyapong888 Fax. -

Email : propmedia88@gmail.com

สงวนลิขสิทธิ์ © 2566 ที่ดินน่าน.com